enth

หมายเลขฉุกเฉินในประเทศไทย: สิ่งที่ชาวต่างชาติควรรู้

08 Oct 2025
หมายเลขฉุกเฉินในประเทศไทย: สิ่งที่ชาวต่างชาติควรรู้

ไม่ว่าคุณจะเดินทาง อาศัย หรือทำงานในประเทศไทย การรู้หมายเลขฉุกเฉินที่ถูกต้องสามารถสร้างความแตกต่างในสถานการณ์วิกฤตได้ ตั้งแต่เหตุฉุกเฉินทางตำรวจไปจนถึงการช่วยเหลือทางการแพทย์หรือรถเสียบนทางหลวง นี่คือทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เพื่อความปลอดภัยและรับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว


1. ตำรวจ (โทร 191)


หากคุณตกอยู่ในอันตราย เห็นเหตุอาชญากรรม หรือจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเร่งด่วนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทร 191.
หมายเลขนี้จะเชื่อมต่อคุณกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งพร้อมให้บริการ ตลอด 24 ชั่วโมงทั่วประเทศ.

บริการภาษาอังกฤษ:
ในเมืองใหญ่เช่น กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และภูเก็ต มักจะมีเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาอังกฤษได้ อย่างไรก็ตาม ควร พูดช้าๆ และชัดเจน หรือขอความช่วยเหลือจากคนท้องถิ่นหากเป็นไปได้

เคล็ดลับ: สำหรับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว คุณสามารถติดต่อ ตำรวจท่องเที่ยว ได้โดยตรงที่ 1155 พวกเขาพูดภาษาอังกฤษและหลายภาษาอื่นๆ


2. ตำรวจท่องเที่ยว (โทร 1155)


ตำรวจท่องเที่ยว เป็นผู้ติดต่อที่ดีที่สุดหากคุณประสบปัญหาเช่น:

- หนังสือเดินทางหรือทรัพย์สินสูญหาย

- การหลอกลวงหรือฉ้อโกง

- อุบัติเหตุ

- ความกังวลด้านความปลอดภัยทั่วไป

พวกเขาได้รับการฝึกฝนเพื่อช่วยเหลือชาวต่างชาติและ พูดได้หลายภาษา รวมถึงภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาญี่ปุ่น พวกเขายังมี แอปพลิเคชันมือถือของตำรวจท่องเที่ยว ให้ดาวน์โหลด

สายด่วน: 1155 (24 ชั่วโมงทั่วประเทศ)
เว็บไซต์: สำนักงานตำรวจท่องเที่ยว


3. รถพยาบาลและเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์ (โทร 1669)


หากคุณหรือคนใกล้ตัวต้องการการดูแลทางการแพทย์ทันที โทร 1669 เพื่อเรียกรถพยาบาล
หมายเลขนี้เชื่อมต่อกับ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (NIEM) ซึ่งดำเนินการทั่วประเทศไทย

โรงพยาบาลเอกชน (เช่น บำรุงราษฎร์ สมิติเวช หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ) ก็มีสายด่วนฉุกเฉินของตนเอง ซึ่งมักจะมีเจ้าหน้าที่ที่พูดภาษาอังกฤษได้

ในกรุงเทพฯ:

- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล: +66 2 667 1000

- โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท: +66 2 022 2222


4. หน่วยดับเพลิง (โทร 199)


สำหรับเหตุไฟไหม้หรือเหตุฉุกเฉินเกี่ยวกับควัน โทร 199 เพื่อเชื่อมต่อกับหน่วยดับเพลิงและกู้ภัย
พวกเขาทำงานตลอด 24 ชั่วโมงและตอบสนองต่อเหตุไฟไหม้ทั้งในเมืองและชนบท รวมถึงอาคารที่อยู่อาศัย รถยนต์ และไฟป่า

เคล็ดลับมืออาชีพ: ในพื้นที่เมืองที่แออัดเช่นกรุงเทพฯ ควรจดจำจุดสังเกตหรือชื่อถนนที่ใกล้ที่สุดเพื่อช่วยให้ผู้ตอบสนองฉุกเฉินหาคุณได้อย่างรวดเร็ว


5. การช่วยเหลือบนทางหลวงหรือรถเสีย


หาก รถของคุณเสียบนทางด่วนหรือทางพิเศษ ให้สงบสติอารมณ์และทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. จอดรถในเลนซ้ายหรือเลนฉุกเฉินอย่างปลอดภัย

2. เปิดไฟฉุกเฉิน

3. โทรสายด่วนการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (EXAT) ที่ 1543 เพื่อขอความช่วยเหลือทันที

4. หรือคุณสามารถโทรหาตำรวจทางหลวงที่ 1193 เพื่อขอความช่วยเหลือข้างทาง

หากคุณเช่ารถ คุณสามารถติดต่อสายด่วน 24 ชั่วโมงของบริษัทเช่ารถ ซึ่งมักจะพิมพ์อยู่ในสัญญาเช่า

หมายเหตุ: อย่าออกจากรถบนถนนที่มีความเร็วสูง เว้นแต่จำเป็นอย่างยิ่ง ปลอดภัยกว่าที่จะอยู่ในรถและรอความช่วยเหลือ


ทำอย่างไรในสถานการณ์ฉุกเฉิน (ทีละขั้นตอน)


1. สงบสติอารมณ์
และประเมินสภาพแวดล้อมของคุณ

2. โทรหาหมายเลขฉุกเฉินที่เกี่ยวข้อง อย่าลืมให้รายละเอียดที่ชัดเจน (สถานที่ เกิดอะไรขึ้น และจำนวนคนที่เกี่ยวข้อง)

3. แบ่งปันจุดสังเกตใกล้เคียงหรือสถานที่ใน Google Maps หากเป็นไปได้

4. รอความช่วยเหลือ และอยู่ในสายจนกว่าผู้ดำเนินการจะยืนยันรายงานของคุณ


เตรียมพร้อมก่อนเดินทาง


- บันทึกหมายเลขฉุกเฉินหลักของไทยทั้งหมดในโทรศัพท์ของคุณ

- เก็บ สำเนาหนังสือเดินทางและรายละเอียดประกันการเดินทาง ไว้กับคุณ

- ดาวน์โหลด Google Translate เพื่อการสื่อสารอย่างรวดเร็วในภาษาไทย

- เรียนรู้วลีภาษาไทยพื้นฐานบางอย่างเช่น:

          “ช่วยด้วย!” (ช่วยด้วย! = Help!)

          “โทรหาตำรวจ!” (โทรหาตำรวจ! = Call the police!)


สรุป


เหตุฉุกเฉินสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ แต่การเตรียมพร้อมทำให้เกิดความแตกต่างอย่างมาก
ด้วยการบันทึกหมายเลขฉุกเฉินที่สำคัญเหล่านี้และรู้ว่าจะโทรหาใคร คุณสามารถเดินทางหรืออาศัยอยู่ในประเทศไทยด้วยความมั่นใจและสบายใจ

อ้างอิงด่วน:

- ตำรวจ: 191

- ตำรวจท่องเที่ยว: 1155

- หน่วยดับเพลิง: 199

- รถพยาบาล: 1669

- ตำรวจทางหลวง: 1193

by Thairanked Guide

October 08, 2025 10:47 AM

ค้นหาโรงแรมและตั๋วเครื่องบิน